ฮิสโตแกรม เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เราตรวจสอบภาพของเราว่า มืดเกินไป หรือสว่างเกินไป หรือพอดีขนาดไหน โดยจะแสดงออกมาเป็น กราฟ ที่เราเรียกกันว่า”ฮิสโตแกรม”
โดยส่วนมากแล้วจะแบ่งออกเป็นด้วยกัน 2แบบนั้นก็คือ
1.ฮิสโตแกรมแสดงความสว่างแสดงค่าสว่างเป็นสีเทา
-แกนนอนของภาพ คือ ระดับความสว่างของภาพ
จะเริ่มจากด้านซ้ายมือ—–มืดสุด(หรือสีดำ)——–โซนตรงกลางคือ มิดโทน(หรือสว่างพอดี)—–โซนด้านขวา คือสว่างมาก (หรือสีขาว)
-แกนแนวตั้งของจะบอกปริมาณของความสว่างที่เฉพาะเจาะจงในโทนนั้น มีค่า 0-255 (0 คือมืดสุด 255 คือสว่างที่สุด) กราฟฮิสโตแกรมจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่กระบวนการถ่ายภาพเข้ามา จนมาถึงการปรับตั้งค่าในโปรแกรมแต่งภาพได้
2.ฮิสโตแกรมแสดงค่าสี
แสดงระดับความสว่างของสีและความอิ่มตัวของสี โดยแสดงเป็น 3 สี คือคือ สีแดง สีเขียว และสีฟ้า เรียกว่า Histogram RGB
แกนนอนเป็นแกนบอกค่าความสว่างในแต่ละสี
แกนตั้งจะบอกจำนวนพิกเซลระดับความสว่างของสี
การอ่าน แบ่งเป็น 3 ส่วน ถ้ากราฟเอียงซ้าย ค่าสีจะออกในโทนสีเข็ม ถ้ากราฟเอียงไปทางขวา ค่าสีจะออมมาในโทนอ่อน และถ้ากราฟอยู่ตรงกลางค่าสีจะอยู่ในระดับปานกลาง
ประโยชน์ของการนำ ฮิสโตแกรมไปใช้งาน
1. ช่วยบอกรายละเอียดของภาพที่หลุดไปในส่วนมืดและส่วนสว่าง
ถ้ากราฟสัมผัสหรือเทไปส่วนไหนของภาพจะทำให้เรารู้ว่า รายละเอียดของภาพที่เราได้มาสูญเสียไป (Shadow Clipping, Highlight Clipping) และทำให้เรารู้สภาพแสงว่าเป็นอย่างไรด้วย
**ส่วนมากแล้วเราจะให้กราฟเป็นโทนกลางๆหรือไม่ให้หลุดรายละเอียดทั้งโทนมืดและโทนสว่าง แต่ทั้งนี่ทั้งนั้นก็ต้องดูภาพโดยรวมมาประกอบด้วย
2. ใช้ดูค่า Exposure ในตอนถ่ายภาพ
เราจะใช้ฮิสโตแกรมในการประเมินว่าข้อมูลหรือค่าแสง ดีหรือไม่ดี ซึ่งค่าที่ดีส่วนมากแล้วจะอยู่ตรงกลางๆนั้นเองซึ่งจะไม่สูญเสียส่วนมืดและส่วนสว่าง แต่ก็ขึ้นอยู่กับภาพเช่นกันเช่นเราอาจจะนำเสนอภาพโทนมืดเป็นต้น
สรุป
ประโยชน์ฮิสโตแกรมไว้สำหรับดูสภาพแสง และดูว่าภาพสว่างหรือมืด หรือรายละเอียดขาดหาย เวลาเราถ่ายภาพเราจะได้ทราบและถ่ายให้ ฮิสโตแกรม ที่ดี และถ่ายมาไม่มืดและสว่างจนหลุดรายละเอียด
เรื่อง/บทความ : ช้างอิมเมท 2563